LOST IN X MAS MARKET สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี 8วัน 5 คืน โดยสายการบิน การ์ต้า (QR)

- ทัวร์ : Europe [ ยุโรป ]
- เที่ยวเมือง : Parma (ปาร์มา) Verona (เวโรนา) Zurich (ซูริค) Lucerne (ลูเซิร์น) Como (โคโม) Zug (ซูก)
- สายการบิน : Qatar Airways
- รหัสโปรแกรม : T13576
- Code : GO3ZRH-QR001
- ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
- ระยะเวลา : 8 วัน 5 คืน


ซูริค – หมู่บ้านเอกีเชม – หมู่บ้านกอลมาร์ - สตราสบูร์ก - ตลาดคริสต์มาส - หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - ริคเวียร์-บาเซิล - ตลาดคริสต์มาส - ซูริค- ยอดเขาริกิ - ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น -ลูเซิร์น - ซุก - โคโม - ทะเลสาบโคโม - เวโรนา - ซิมิโอเน่ - ปาร์มา - OUTLET
From - To | Date | Time | Airline | Flight |
---|---|---|---|---|
BKK - DOH | 2025-12-04 2025-12-04 | 18:55 - 22:20 | ![]() | QR835 |
DOH - ZRH | 2025-12-05 2025-12-05 | 02:40 - 07:00 | ![]() | QR093 |
MXP - DOH | 2025-12-10 2025-12-11 | 22:10 - 05:55 | ![]() | QR118 |
DOH - BKK | 2025-12-11 2025-12-11 | 08:50 - 19:25 | ![]() | QR826 |
สรุปการจอง
0 คน
0 บาท
0 ห้อง
From - To | Date | Time | Airline | Flight |
---|---|---|---|---|
BKK - DOH | 2025-12-09 2025-12-09 | 18:55 - 22:30 | ![]() | QR835 |
DOH - ZRH | 2025-12-10 2025-12-10 | 02:40 - 07:00 | ![]() | QR093 |
MXP - DOH | 2025-12-15 2025-12-16 | 22:10 - 05:55 | ![]() | QR118 |
DOH - BKK | 2025-12-16 2025-12-16 | 09:05 - 19:25 | ![]() | QR826 |
สรุปการจอง
0 คน
0 บาท
0 ห้อง
รายละเอียดโปรแกรม
กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)
โดฮา- ซูริค – หมู่บ้านเอกีเชม – หมู่บ้านกอลมาร์ - สตราสบูร์ก - ตลาดคริสต์มาสเมืองสตราสบูร์ก
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส (Capitale des Vins d'Alsace) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมาจนได้รับสมญานามว่า “Little Venice” นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน (St. Martin church) โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1234 - 1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า นำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ที่มี 2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) โดยตลาดคริสต์มาสของเมืองสตาร์สบูร์กนั้นได้ชื่อว่าเป็นตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศสโดยได้เริ่มมีการจัดมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1570 ทำให้เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งตลาดคริสต์มาส” และปัจจุบันยังได้รับการยอมรับกันว่าตลาดคริสต์มาสของเมืองสตาร์สบูร์กเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดในโลก โดยแต่ละปีจะจัดโดยรอบเกาะกรอง ดีล (Grande Île ) เกาะมรดกโลกที่ตั้งอยู่ที่เขตเมืองเก่าของสตาร์สบูร์ก ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส โดยตลอดเทศกาลจะเต็มไปด้วยการประดับไฟตกแต่งเต็มถนน , ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ , ร้านจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ร้านจำหน่ายเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนม และอาหารพื้นเมือง รวมทั้งหมดกว่า 300 ร้าน และที่ห้ามพลาดสำหรับตลาดคริสต์มาสเมืองสตาร์สบูร์กก็คือ “ขนมเพรทเซล” (Pretzel) ขนมพื้นเมืองของแคว้นอัลซาส ทำจากแป้งพาย มีรูปร่างเชือกที่ผูกเป็นปมหรือคล้ายผีเสื้อ ผสมด้วยส่วนผสมชนิดต่างๆ เช่น ชีส น้ำตาล ช็อกโกแลต อบเชย เมล็ดพืช และถั่ว มีรสชาติออกไปทางเค็ม และจะเข้ากันได้ดีอย่างยิ่งเมื่อทานคู่กับเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดคริสต์มาสอย่าง “ไวน์ร้อน” หรือ Mulled wine ไวน์แดงต้มผสมน้ำตาลและเครื่องเทศต่างๆ เช่น โป๊ยกั๊ก เม็ดยี่หร่า อบเชย วานิลลา เปลือกส้ม หรือ เลม่อน มีรสชาติเปรี้ยวและมีกลิ่นของเครื่องเทศ ชาวยุโรปนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านได้เดินเล่นตลาดคริสต์มาสตามอัธยาศัย
สตราสบูร์ก - หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - ริคเวียร์-บาเซิล - ตลาดคริสต์มาส - ซูริค
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ (Ribeauvillé) อีกหนึ่งหมู่บ้านสวยแคว้นอัลซาส โดยที่นี่ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น Ville Fleurie หรือ หมู่บ้านแห่งดอกไม้ บางช่วงอาจจะเจอการประดับประดาบ้านด้วยดอกไม้หลากสีสันต่างๆ เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ในการมาเยือนแคว้นอัลซาส นำท่านเดินทางสู่ เมืองริควีร์ (Riquewihr) เมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาสที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมา ก่อนนำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆ เต็มไปหมด
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาเซิล (Basel) เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศรองจากซูริค เป็นเมืองหลวงของรัฐบาเซิลชตัดท์ทางด้านเหนือของสวิส บริเวณเชื่อมต่อกับชายแดนฝรั่งเศสและเยอรมัน ทำให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางเข้าออก 3 ประเทศนี้ไปโดยปริยาย นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าบาเซิล ที่มีอาคารบ้านเรือนสวยงามเก่าแก่กว่าร้อยปี รวมทั้งมีน้ำพุแทรกตัวตามจุดต่างๆกว่า 200 แห่ง ชมประตูเมือง Spalentor ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แห่งของหอคอยตามแนวกำแพงเมืองเก่าที่หลงเหลืออยู่ โดยหอคอยแห่งนี้โดดเด่นด้วยยอดปลายแหลมมุงหลังคากระเบื้องสลับสีลายเขียวเหลืองคร่อมอยู่บนถนนและทางรถราง ชมจัตุรัสมาร์คพลาสซ์ (Marktplatz) ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลาว่าการเมือง (Rathaus) โดยบริเวณนี้มีตลาดนัดขายอาหาร, ผลิตภัณฑ์พื้นเมืองต่างๆเช่น ไส้กรอก ขนมปัง ผักผลไม้และไม้ดอกไม้ประดับ ชมมหาวิหารบาเซิล (Basel Munster) สร้างครั้งแรกเมื่อปี 1019 มหาวิหารหลังที่เห็นในปัจจุบันเป็นหลังที่ได้รับการซ่อมแซมหลังจากได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 1356 ด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ผสมโกธิคจากยุคกลางที่สวยโดดเด่นด้วยผนังทรายสีแดงด้านนอกรวมทั้งกระเบื้องมุมหลังคาสลับสี โดยมีสีเขียวเป็นหลักอันเป็นเอกลักษณ์ของหลังคาอาคารในเมืองแถบนี้ ภายในมีภาพกระจกสี ภาพจิตรกรรม ภาพแกะสลักนูนบรรยายเรื่องราวทางศาสนา ด้านหลังของวิหารมีต้นเชสนัตปลูกให้ร่มเงาอยู่หลายต้น รวมทั้งบ่อน้ำพุและม้านั่งยาวให้ได้นั่งชมวิวทิวทัศน์ฝั่ง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) เมืองบาเซิล โดยตลาดคริสต์มาสเมืองบาเซิลนั้นถือเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์. ตลาดจะจัดขึ้นที่ Barfüsserplatz, Münsterplatz, และ Claraplatz. พ่อค้าแม่ค้าและช่างฝีมือต่างนำสินค้ามาขายที่บู้ททรงกระท่อมไม้หลังเล็กๆ ใครก็ตามที่มองหาไอเดียของขวัญ สามารถหาแรงบันดาลใจได้จากสินค้าที่หลากหลายและบรรยากาศที่น่าหลงใหล อาหารรสเลิศมากมาย เช่น วาฟเฟิล ไวน์อุ่น ขนมปังขิงบาเซิลแท้ๆ ชีสสวิสแสนอร่อย หรือไส้กรอกย่างยอดนิยม ตลาดแห่งนี้คึกคักไปด้วยงานกิจกรรมก่อนคริสต์มาสมากมาย ครั้งหนึ่งตลาดคริสต์มาสที่ Basel เคยได้รับการโหวตให้เป็นตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดในยุโรป ประจำปี 2021 ด้วย
ซูริค - ยอดเขาริกิ - ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น -ลูเซิร์น - ซูริค
จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ที่เรียกได้ว่าเป็นรถไฟสายแรกของสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,798 เมตร สู่ ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า "ราชินิแห่งขุนเขา" (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา
จากนั้นนำท่านลงจากเขาโดยกระเช้า เพื่อล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne Cruise) ทะเลสาบสี่พันธรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีความงดงามของทัศนียภาพอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อมด้วยยอดเขาริกิ (MountRigi) และยอดเขาพิลาทุส (Mount Pilatus) ทำให้วิวทิวทัศน์ของทะเลสาบลูเซิร์นดูงดงามยิ่งขึ้น ทะเลสาบลูเซิร์นยังได้ชื่อว่าเป็น “ทะเลสาบที่สวยสุดในสวิตเซอร์แลนด์” อีกด้วย ให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพบริเวณรอบๆทะเลสาบลูเซิร์น นำท่านเที่ยวชม เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซูริค
ซูริค - ซุก - โคโม - ทะเลสาบโคโม - ปาร์มา
จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ
ออกเดินทางสู่ เมืองโคโม (Como) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยงามบริเวณพรมแดนอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ทะเลสาบโคโมที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์สูงตระหง่านอันงดงาม นำท่านชมทะเลสาบโคโม่ (Como Lake ) โดยทะเลสาบโคโม่นั้นตั้งอยู่ในจังหวัดโคโม่ แคว้นลอมบาร์เดียเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลีแต่เรื่องความสวยงามนั้นมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยพื้นที่โดยรอบมีความยาวถึง 146 กิโลเมตรเลยทีเดียว
หลังจากนั้นนำท่านสู่เมืองปาร์มา (Parma)
ปาร์มา - นําท่านโดยสารรถไฟสู่มู่บ้านชิงเกว แตร์เร – เวโรนา - ตลาดคริสต์มาส
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร นําท่านโดยสารรถไฟสู่ หมู่บ้านชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีความสวยงามที่ไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ มีไวน์ท้องถิ่นที่ปลูกในพื้นที่ที่รสชาดเยี่ยมอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร ( Monterosso al Mare) เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และกว้างมากที่สุด มีหาดทรายยาวสวยงามที่สุดในชิงเกว แตร์เร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นเวเนโต้รองจากเวนิส เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวี และนักเขียนบทละครชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลก เขายังใช้บรรยากาศ และเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่าแต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต นำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงามภายในจัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรมเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต พาเดินชมสัมผัสบรรยากาศ ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) สินค้าหลากหลายประเภท เช่น งานฝีมือ ของที่ระลึกแบบดั้งเดิม สินค้าทำมือ สบู่ทำมือ ลิเคียวร์ ช็อคโกแลต รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มแบบดั้งเดิม เช่น ไส้กรอก เบรตเซล และไวน์ร้อน
เวโรนา - ซิมิโอเน่ – มิลาน - ดูโอโม - สนามบิน
นำท่านเดินทางสู่เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione) เมืองแห่งป้อมปราการโบราณ เก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง (The Scallger of Sirmione ) สร้างในปี 1277 ซึ่งเมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล SCALIGER จากนั้นเดินเล่นชมเมืองเก่าชิมไอศรีมเจลาโต้ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี หลากหลายร้านและของที่ระลึกอื่นๆ อิสระให้ท่านชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบการ์ด้า ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์
นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน และเป็นที่ตั้งของร้านค้า ชั้นนำมากมาย รวมถึงร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังของโลก อาทิเช่น LV, PRADA, GUCCI, TOD’S เป็นต้น ท่านสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจากด้านในซึ่งเป็นอาคารกระจกที่เก่าแก่และสวยงาม
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิลาน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
โดฮา- กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
มื้ออาหาร
วันที่ | กำหนดการ | เช้า | กลางวัน | ค่ำ |
---|---|---|---|---|
1 | กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) | |||
2 | โดฮา- ซูริค – หมู่บ้านเอกีเชม – หมู่บ้านกอลมาร์ - สตราสบูร์ก - ตลาดคริสต์มาสเมืองสตราสบูร์ก | |||
3 | สตราสบูร์ก - หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - ริคเวียร์-บาเซิล - ตลาดคริสต์มาส - ซูริค | |||
4 | ซูริค - ยอดเขาริกิ - ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น -ลูเซิร์น - ซูริค | |||
5 | ซูริค - ซุก - โคโม - ทะเลสาบโคโม - ปาร์มา | |||
6 | ปาร์มา - นําท่านโดยสารรถไฟสู่มู่บ้านชิงเกว แตร์เร – เวโรนา - ตลาดคริสต์มาส | |||
7 | เวโรนา - ซิมิโอเน่ – มิลาน - ดูโอโม - สนามบิน | |||
8 | โดฮา- กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) |
รายละเอียดและเงื่อนไข
1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท +
ค่าวีซ่า 5,900 บาท
(ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้) โดยโอนเข้าบัญชี
ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้
ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง
ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน
3 วันนับจากวันจอง
หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้
ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ
(กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่
ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร
และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน)
ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ
นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ,
มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน
การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน
ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง
เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ
(ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ
วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)
8.
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า
25 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง
เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน
ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม
ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้นรวมค่าบริการยื่นวีซ่า
(5,900.-บาท)
6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (12 ยูโร/ต่อท่าน)
7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (24 ยูโร /ต่อท่าน)
GO3ZRH5NMXPQR251204 เดินทางวันที่ 04 ธ.ค. 2568 - 11 ธ.ค. 2568
เส้นทาง | วันที่ | เวลา | สายการบิน | ไฟท์บิน |
---|---|---|---|---|
BKK - DOH | 2025-12-04 ถึง 2025-12-04 | 18:55 - 22:20 | ![]() |
QR835 |
DOH - ZRH | 2025-12-05 ถึง 2025-12-05 | 02:40 - 07:00 | ![]() |
QR093 |
MXP - DOH | 2025-12-10 ถึง 2025-12-11 | 22:10 - 05:55 | ![]() |
QR118 |
DOH - BKK | 2025-12-11 ถึง 2025-12-11 | 08:50 - 19:25 | ![]() |
QR826 |
GO3ZRH5NMXPQR251209 เดินทางวันที่ 09 ธ.ค. 2568 - 16 ธ.ค. 2568
เส้นทาง | วันที่ | เวลา | สายการบิน | ไฟท์บิน |
---|---|---|---|---|
BKK - DOH | 2025-12-09 ถึง 2025-12-09 | 18:55 - 22:30 | ![]() |
QR835 |
DOH - ZRH | 2025-12-10 ถึง 2025-12-10 | 02:40 - 07:00 | ![]() |
QR093 |
MXP - DOH | 2025-12-15 ถึง 2025-12-16 | 22:10 - 05:55 | ![]() |
QR118 |
DOH - BKK | 2025-12-16 ถึง 2025-12-16 | 09:05 - 19:25 | ![]() |
QR826 |